เรื่องร้องเรียน
The post เรื่องร้องเรียน ...
วันนี้ (6 พฤษภาคม 2567) เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) และนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการและโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายนพ ชีวานันท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เป็นตัวแทนลงนามในนามกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับผู้แทนจาก 13 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด สมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
รมว.ศธ. กล่าวว่า ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นข้อห่วงใยของทั้งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากมีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของครูฯ ที่เป็นตัวแปรสำคัญต่อคุณภาพชีวิต และส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาที่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กและเยาวชนของประเทศไทย
“กระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงความห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ที่ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาภาพรวมของประเทศ เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา เพื่อลดความเดือดร้อนของครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
และความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ภายใต้กรอบภารกิจของทั้ง 14 หน่วยงาน ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อนด้วยการบูรณาการร่วมกันที่สมบูรณ์แบบ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการชำระหนี้ ทำให้ครูฯ ได้รับการดูแลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างทั่วถึงและเป็นระบบ ส่งเสริมให้ครูมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยให้ทุกส่วนราชการ ภาครัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ พิจารณาปรับปรุง/กำหนดหลักเกณฑ์การหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้เงินกู้ของบุคลากรในสังกัด ให้มีเงินเดือนคงเหลือสุทธิหลังจากหักชำระหนี้ประจำเดือนแล้ว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ให้เป็นแนวทางเดียวกันกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์ พ.ศ. 2551
ในท้ายสุดนี้ ผมขอขอบคุณหน่วยงานและสถาบันการเงิน ทั้ง 13 แห่ง ที่มาร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดำรงชีวิตด้วยความภาคภูมิใจ ตลอดจนถึงสามารถปฏิบัติหน้าที่และจัดการเรียนการสอนให้นักเรียน “เรียนดี มีความสุข” ต่อไป” รมว.ศธ.กล่าว
สุวิชา บุญญานุพงศ์: สรุป/กราฟิก
นวรัตน์ รามสูต: เรียบเรียง
จักรภพ เผ่าเพ็ง: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
6/5/2567
The post ศธ. จับมือ 13 องค์กรเครือข่าย-สถาบันการเงิน ร่วมใจแก้หนี้ครูฯ เพิ่มสภาพคล่องให้ใช้ชีวิตอย่างมีสุข appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.