“พระพุทธชินราชงามเลิศ ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา”

คำขวัญประจำจังหวัดพิษณุโลก ที่สื่อถึงความงดงามทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสะท้อนภาพของการศึกษาในพื้นที่ ที่ดำเนินไปอย่างกลมกลืนกับอัตลักษณ์ ผสานรากเหง้าทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมผลักดันผู้เรียนทุกคนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพในโลกยุคดิจิทัล

หนึ่งในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน “พิษณุโลก” กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาการศึกษาที่เดินหน้าอย่างมั่นคง ภายใต้การขับเคลื่อนของ ดร.กอบภณ แสงสมบัติ ศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก ผู้สานต่อนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับมอบหมายโดยตรงจาก ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นดั่ง “โซ่ข้อกลาง” ในการขับเคลื่อนภาพรวมหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้ “พิษณุโลกเป็นหนึ่ง” โดย “การศึกษาในพิษณุโลกต้องขับเคลื่อนอย่างมีทิศทาง พัฒนาตามบริบทของพื้นที่ บูรณาการแผนยุทธศาสตร์จังหวัด พัฒนาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน”

“สถานศึกษาทุกแห่ง ทุกโรงเรียน ในจังหวัดพิษณุโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในเขตเมือง หรือโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล ล้วนได้รับการพัฒนาโดยยึดเป้าหมายเดียวกัน คือ “เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม” เป็นบทพิสูจน์ว่า “พื้นที่” ไม่ได้เป็นข้อจำกัดของการเรียนรู้ หากแต่มอบโอกาสในการออกแบบนวัตกรรมการศึกษาให้ตอบโจทย์เฉพาะถิ่น สามารถเชื่อมโยงวัฒนธรรมเข้ากับการพัฒนาโลกยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง

การศึกษาพิษณุโลกเดินหน้าอย่างเป็นระบบ ด้วยการบูรณาการจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ที่เป็นศูนย์กลางในการประสานทุกภาคส่วน ทั้งเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานอาชีวศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน กลไกสำคัญของ กศจ. ในการกำกับนโยบาย เชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์จังหวัดเข้ากับบริบทของโรงเรียน สร้างความสมดุลระหว่างนโยบายระดับชาติกับบริบทของพื้นที่ ด้วยหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของเด็กและเยาวชน กล่าวให้เข้าใจโดยง่ายก็คือ “ขับเคลื่อนกลไกเชิงระบบที่เข้าใจพื้นที่”

ผลลัพธ์คือโครงการการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ตรงความต้องการของผู้เรียน เรียนรู้วิธีภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสานอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พร้อมการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะหลักของผู้เรียน ทั้งสมรรถนะการสื่อสาร คิดขั้นสูง การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง สมรรถนะทางอารมณ์และสังคม รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกช่วงวัย” ดร.กอบภณ กล่าว

สำหรับโรงเรียนในจังหวัดพิษณุโลก มีการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยยึดหลัก “ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” และออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับช่วงวัย ความสนใจ และศักยภาพของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น โรงเรียนต่าง ๆ ได้พัฒนาหลักสูตรและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์บริบทของพื้นที่ เชื่อมโยงอัตลักษณ์ท้องถิ่นเข้ากับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างกลมกลืน ส่งเสริมทั้งความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น

โรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก จุดเริ่มต้นของรากฐานแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ในระดับปฐมวัย “โรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก” คือแบบอย่างของการจัดการศึกษาเพื่อปูพื้นฐานที่มั่นคงให้กับผู้เรียน ด้วยแนวคิด “เด็กปฐมวัยต้องได้รับการดูแลอย่างรอบด้าน” โรงเรียนจึงจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือทำจริง ผสมผสานกับบริบทท้องถิ่นและการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม

หลักสูตรของโรงเรียนเน้นส่งเสริม “สมรรถนะหลักของผู้เรียน” โดยมีหลักสูตรปฐมวัย และหลักสูตรเพื่อสร้างทางเลือกและโอกาสทางการศึกษา สนองความต้องการของผู้เรียน ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร มีการพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัยอย่างมีคุณภาพ ประชากรวัยเรียนภาคบังคับ ก็มีการจัดหลักสูตรเพื่อเพิ่มเติมสาระที่มีความเป็นมาตรฐานสากลในด้านเทคโนโลยี การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS) การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและบูรณาการอาเซียน (ASEAN Curriculum Source book) ที่ครอบคลุมการศึกษาในทุกมิติ

การพัฒนาเด็กให้มีความสามารถในการสื่อสาร มีความคิดสร้างสรรค์ และเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ปลูกฝังการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ พร้อมกับการให้ความสำคัญในการเรียนรู้เทคโนโลยีพื้นฐาน ผ่านการเรียนห้องเรียนอัจฉริยะที่มีสื่อดิจิทัลเสริมประสบการณ์การเรียนรู้แบบ Active Learning เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ผ่านสื่อ ภาพ เสียง และกิจกรรมที่สอดคล้องกับวัย โรงเรียนอนุบาลพิษณุโลกจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเด็กให้ “เก่ง” มีจุดมุ่งหมายในการ “พัฒนาความคิด กิจกรรมสร้างเสริม ต่อเติมคุณธรรม” พร้อมก้าวต่อไปสู่การศึกษาขั้นถัดไปอย่างมีคุณภาพ และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา “พิษณุโลกเมืองแห่งการศึกษา” อย่างยั่งยืน

โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก พื้นที่แห่งการเรียนรู้ สู่โลกนวัตกรรมยุคดิจิทัล

หนึ่งในโรงเรียนต้นแบบของจังหวัดคือ “โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก” ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลจากศูนย์กลางของประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดพิษณุโลกและภาคเหนือตอนล่าง ได้เข้าถึงการศึกษาวิทยาศาสตร์คุณภาพสูง เสริมสร้างศักยภาพให้พร้อมเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมในอนาคต โรงเรียนมุ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในยุคดิจิทัล ที่เชื่อมโยงกับบริบทของชุมชน โดยเปลี่ยน “ห้องเรียน” ให้เป็นพื้นที่แห่งการทดลอง คิดค้น และลงมือทำจริง ทั้งในห้อง STEM ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ และห้องทดลอง นักเรียนได้รับการฝึกฝนให้คิดอย่างเป็นระบบ ผ่านการทำโครงงานนวัตกรรมที่ใช้ความรู้จากวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และทักษะดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

หลักสูตรของโรงเรียนออกแบบให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ตั้งแต่การตั้งคำถาม สังเกต สัมภาษณ์ วิเคราะห์ความต้องการ ไปจนถึงการพัฒนาโมเดลต้นแบบและการนำเสนอผลงานอย่างเป็นระบบ การสื่อสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่นักเรียนได้ฝึกฝนควบคู่ไปกับการเขียนเชิงวิชาการ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำงานวิจัยระดับสูง ตัวอย่างหนึ่งในนวัตกรรม เช่น “ท่อเพาะเห็ดนางฟ้าด้วยระบบทำความเย็นแบบระเหย” ซึ่งนักเรียนพัฒนาจากการลงพื้นที่จริงในชุมชน จนคว้ารางวัลระดับประเทศและเหรียญทองจากเวทีนานาชาติที่ประเทศจีน ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการยื่นจดอนุสิทธิบัตร ซึ่่งโรงเรียนส่งเสริมให้มีการคุ้มครองนวัตกรรมที่นักเรียนพัฒนาขึ้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นนวัตกรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพต่อยอดนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์

การเตรียมผู้เรียนให้พร้อมก้าวทันโลกดิจิทัล นักเรียนทุกคนจะได้เรียนรู้พื้นฐานคอมพิวเตอร์ วิทยาการคำนวณ และการเขียนโปรแกรมตั้งแต่ระดับต้น พร้อมเปิดโอกาสให้เลือกเส้นทางเรียนรู้เพิ่มเติมตามความสนใจ เช่น การออกแบบเว็บไซต์ แอนิเมชัน เกม IoT และหุ่นยนต์เบื้องต้น ขณะที่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีการเรียนวิชาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการออกแบบทางวิศวกรรม

การได้เรียนรู้ผ่านอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเข้าถึงเครื่องมือวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี มีการสร้างสรรค์ กระตุ้นความคิด และสนับสนุนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาผู้เรียนด้วยกิจกรรมศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์อย่างกลมกลืน ผ่านนิทรรศการศิลปะของนักเรียนที่จัดแสดงอย่างภาคภูมิ หรือชุมนุมที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ทดลองค้นหาความถนัด โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยพิษณุโลก จึงกลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เพื่อสนับสนุนผู้เรียนทุกคนสู่โลกนวัตกรรมยุคดิจิทัล

โรงเรียนจ่านกร้อง แบบอย่างของการจัดการศึกษาท้องถิ่นและดิจิทัลอย่างกลมกลืน

“เรียนดี กีฬาเด่น เน้นมารยาท เปรื่องปราชญ์ศิลป์” ปรัชญาของ “โรงเรียนจ่านกร้อง” คือหนึ่งในต้นแบบของการจัดการศึกษาเชิงคุณภาพ ที่นำอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาเชื่อมโยงกับการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ด้วย “หลักสูตรพิษณุโลกศึกษา” สู่การพัฒนาการเรียนรู้ 5F + 1History output ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่บูรณาการการศึกษาประวัติศาสตร์ ผสานการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง นำมาสู่โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ ของจังหวัดพิษณุโลก

“พิษณุโลกศึกษา” Food Film Fashion Festival Fighting + 1 History output
เสริมสร้างและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้าน Food ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้การถนอมอาหาร การประกอบอาหาร หรือภูมิปัญญาท้องถิ่น “หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก” บทหนึ่งในคำขวัญประจังหวัดก็สอดแทรกด้วยอาหารพื้นถิ่น พร้อมกับการพัฒนาองค์ความรู้จากเครือข่ายสถานศึกษา ร่วมขับเคลื่อนแนวทางการจัดการเรียนรู้และส่งเสริมประวัติศาสตร์สู่การเป็น Soft Power อาหารกลายเป็น “เครื่องมือแห่งการเรียนรู้”

จากการศึกษาประวัติศาสตร์ พระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผ่านการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ผ่าน Film “สดุดีนเรศราชา” คือผลลัพธ์ของกระบวนการเรียนรู้ด้วย “การคิด วิเคราะห์ และถ่ายทอด” อย่างมีส่วนร่วม พร้อมส่งเสริมองค์ความรู้ด้านภูมิปัญญา ด้วย Fashion เรียนรู้การจักสาน การออกแบบเครื่องประดับพื้นถิ่น ถือเป็นส่งเสริม Soft Power ของจังหวัด “พิษณุโลกผ้าไทย ใส่ได้ทุกวันและทุกวัย” ผ่านกิจกรรมแต่งไทยรื่นรมย์ พาชมสองแคว ส่งเสริมให้ใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวัน

กิจกรรม Festival บูรณาการและส่งเสริมความสามารถด้านศิลปะดนตรี วัฒนธรรมการละเล่นท้องถิ่น การแสดงรำมังคละ ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และฝึกฝนมารยาทงามของชาวสองแคว จนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดมารยาทไทยระดับจังหวัด และระดับชาติอย่างต่อเนื่อง สู่การส่งเสริมกิจกรรม Fighting คีตะมวยไทยและกระบี่กระบอง เพื่อฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งปลูกฝังความเป็นไทย ความเคารพในศิลปะการต่อสู้ของบรรพชน

พร้อมได้เรียนรู้ History ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นผ่านแหล่งเรียนรู้จริง อาทิ พระราชวังจันทน์ พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี วัดนางพญา วัดราชบูรณะ ผ่านหลักสูตรพิษณุโลกศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดองค์ความรู้ และตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก พร้อมกับก้าวสู่โลกอนาคตด้วยความพร้อมด้านเทคโนโลยีและการเรียนรู้ดิจิทัล ห้องเรียนดิจิทัลถูกพัฒนาให้มีสื่อการสอนที่ทันสมัย พร้อมฝึกทักษะด้านคอมพิวเตอร์ วิทยาการคำนวณ และการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม นักเรียนได้เรียนรู้ตั้งแต่การออกแบบสื่อ การตัดต่อวิดีโอ ไปจนถึงการเขียนโค้ดเบื้องต้น ผ่านการนำเสนอผลงานผ่านสื่อออนไลน์ การจัดนิทรรศการเสมือนจริง หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยี VR/AR เพื่อจำลองเหตุการณ์ประวัติศาสตร์

“สองฝั่งน้ำน่าน คือสองสายธารแห่งการเรียนรู้ สายหนึ่งคือการเรียนรู้ผ่านวัฒนธรรมของท้องถิ่น อีกสายหนึ่งคือการเรียนรู้เพื่อพัฒนาประชากรชาวพิษณุโลก ให้มีความพร้อมในโลกยุคดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ เมื่อสองสายธารบรรจบกัน “พิษณุโลก” จึงกลายเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่หล่อหลอมภูมิปัญญาท้องถิ่น เข้ากับนวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมพาผู้เรียนทุกคนก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

อานนท์ วิชานนท์ / สกู๊ปข่าว
ศุภณัฐ วัฒนมงคลลาภ / กราฟิก
พีรณัฐ ยุชยะทัต / ภาพ
ขอบคุณผู้อำนวยการและคณะครูของโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง สำหรับข้อมูลเชิงลึก

The post “สองฝั่งน้ำน่านแห่งการเรียนรู้” พิษณุโลก … เมืองแห่งการศึกษาที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม กับ โลกยุคดิจิทัล appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post