ครม.อนุมัติแต่ง
มติคณะรัฐมนตรี (23 เม...
17 พฤษภาคม 2567/ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายให้แก่คณะอนุกรรมการ ในคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านการประชุมระบบออนไลน์
รมว.ศธ. กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคืออยากเห็นความเป็นหนึ่งเดียวของกิจการลูกเสือไทย วันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เด็กไม่ค่อยอยากเรียนลูกเสือ เราก็ต้องปรับรูปแบบใหม่ให้มีความดึงดูดและน่าสนใจ ซึ่งจริง ๆ แล้ว วิชาลูกเสือนั้นเป็นสิ่งที่ดี ถ้าไม่ดีจริงคงไม่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทั่วโลกได้จนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นในส่วนของเนื้อหาเราอาจจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน เช่น การดูแลการจราจรแก้ปัญหารถติด การรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ การเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น การวางแผนการเดินทางในทุกมิติ อย่างเรื่องเข็มทิศเราก็ยังคงต้องสอนอยู่แต่อาจจะเป็นระบบเข็มทิศดิจิทัล เนื่องจากบางที่อาจจะไม่มีสัญญาณในการใช้ Google map เป็นต้น
วันนี้จุดร่วมของเราก็มีคำปฏิญาณตนของลูกเสืออยู่แล้วที่เราจะร่วมเดินไปด้วยกันก็ จะเหลือแค่กระบวนการหรือวิธีการในการเรียนการสอนที่ต้องปรับเปลี่ยนเท่านั้นเอง ถ้าเราสามารถหาจุดร่วมที่เหมาะสมได้ ค่อย ๆ ซึมซับให้เด็กคล้อยตาม ปลูกฝังการรักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เด็กมีจิตวิญญาณในการช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อจากหัวใจ จากความรู้สึกที่เด็กเขาอยากทำเอง
สำหรับนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เน้นการสร้างความสุข ซึ่งเมื่อเกิดความรักในสิ่งที่อยากจะทำ เด็กก็จะทำด้วยความสุขเช่นกัน รวมทั้งฝากเรื่อง “สุขาดี มีความสุข” ซึ่งการเข้าค่าย ห้องน้ำต่าง ๆ อาจจะไม่ถึงกับขั้นสวยงามโอ่โถง แต่ต้องสะอาด ให้เด็กดำเนินชีวิตได้อย่างถูกสุขลักษณะ การเรียนรู้ความลำบากนั้น เราฝึกเขาได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ต้องให้เขาไปลำบากในทุกเรื่อง ขอให้เป็นไปในหลักของทางสายกลาง สิ่งสำคัญคือ อยากให้องค์ความรู้ทางการลูกเสือซึมซับอยู่ในผู้คนทุก Generation ตามบทบาทของตนเอง เช่น บางคนอยู่ Gen-B ก็ต้องถอยออกมาเป็นพี่เลี้ยงให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกในการทำงานอยาก ร่วมกันสร้างบุคลากรทางการลูกเสือ Generation ใหม่
“ขอย้ำไว้ว่าการลูกเสือจะต้องไม่ตาย จะต้องอยู่ยืนยงตลอดไป ขณะที่แนวทางเรียนดีมีความสุขก็ต้องมีความสุขในการทำงานเช่นกัน พยายามมอบหมายกระจายงานให้ทั่วถึงกัน เพื่อลดภาระ ไม่แบกงานไว้คนเดียว ทำงานอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด สอนให้ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ และที่สิ่งที่ลูกเสือต้องทำมากกว่าคนทั่วไปคือ ช่วยในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งเป็นมิติที่กว้างและใหญ่กว่า ด้วยแนวทางทำดี ทำได้ ทำทันที จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาจับมือกันและพัฒนาการลูกเสือไทยให้ยิ่งใหญ่ต่อไป” รมว.ศธ. กล่าว
สำหรับคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ จำนวน 5 คณะ ประกอบด้วย
1. คณะอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมกิจการลูกเสือ
2. คณะอนุกรรมการฝ่ายพัฒนากิจกรรมลูกเสือ
3. คณะอนุกรรมการฝ่ายพัฒนารายได้และสิทธิประโยชน์
4. คณะอนุกรรมการฝ่ายกฏหมาย
5. คณะอนุกรรมการฝ่ายตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผล
ปารัชญ์ ไชยเวช/ข่าว
ณัฐพล สุกไทย/ถ่ายภาพ
The post ‘เพิ่มพูน’ วางเป้าสร้างบุคลากรทางการลูกเสือ Generation ใหม่ หาจุดร่วมในการปรับเนื้อหาให้ทันสมัย ร่วมพัฒนาการลูกเสือไทยจับมือไว้แล้วไปด้วยกัน appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.