จำนวนสถานศึกษา
The post จำนวนสถานศึกษา จ...
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)มอบนโยบายและเป็นประธานพิธีปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการสร้างและส่งเสริมความเป็นพลเมืองดี ตามรอยพระยุคลบาทด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติในระดับจังหวัด ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
รมว.ศธ. กล่าวว่า ขอขอบคุณปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารทุกคนที่จัดให้มีโครงการนี้ เพื่อได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ตามนโยบายของ ศธ. “เรียนดี มีความสุข” แบ่งเป็น 2 ด้านคือ การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ การศึกษาเพื่อความมั่นคงในชีวิต ลดภาระของครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งเรื่องการประเมินต่าง ๆ ครูคืนถิ่น ยกเลิกครูเวร การจ้างนักการภารโรง เป็นต้น ส่วนการลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง คือ Anywhere Anytime เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา อยากให้การเรียนการสอนมีการบันทึกเทป เมื่อเรียนในห้องเรียนไม่เข้าใจก็สามารถมาดูเทปย้อนหลังได้ เด็กที่ขาดโอกาสก็จะได้เรียนด้วยกัน อาจจะแตกต่างจาก DLTV บ้าง แต่ก็คิดไว้ว่าอาจจะนำ Content ดี ๆ ของ DLTV เพราะ DLTV ก็เกิดจากสายพระเนตรอันกว้างไกลของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทำให้เด็กของเราที่ขาดโอกาสในสถานที่ต่างได้เรียนอย่างเท่าเทียม เหมือนเป็นการน้อมนำแนวนโยบายของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาอยู่ประยุกต์ใช้ ให้ทันสมัย รวมทั้งเรื่อง Coaching ก็พยายามทำอยู่ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ) ก็ได้เข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนเครดิตแบงค์ ระหว่างเรียนมีรายได้ จบแล้วมีงานทำ ตลอดจนนโยบายที่เพิ่มเติมขึ้นมา เรื่องของอาหารกลางวันโรงเรียนขยายโอกาส
ดังนั้นเวทีนี้จึงขอให้พวกเราทุกคนได้มาจับมือกันขับเคลื่อนนโยบายต่อไป โดยศึกษาธิการจังหวัดจะเป็นพลังที่มาช่วยเพิ่มศักยภาพ เน้นในเรื่องของ Anywhere Anytime เช่น โครงการนี้ก็ขอให้ทำเป็นคลิปวีดีโอการให้ความรู้จากวิทยากรประเด็นต่าง ๆ แล้วลองเอาไปฉายให้ลูกน้องดู ให้เขาได้เกิดการคิด วิเคราะห์ จะมาปรับใช้กับยังไงในบริบทของจังหวัดเรา มีสิ่งใดที่เราจะเชื่อมโยงได้ เพื่อสอดประสานกันในการทำงาน
“ท่านอาจจะคิดว่าอำนาจของท่านไม่มี จึงอยากขออำนาจที่เป็นของรัฐ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าอำนาจที่เป็นของรัฐบางทีก็ใช้ไม่ได้ จึงอยากให้ลองทบทวนตัวเราดูว่าเราควรหันมาเพิ่มอำนาจบารมีด้วยตัวเราดีกว่า คือ ทำตนให้เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ทำให้เป็นบุคคลที่ผู้คนรัก เป็นผู้รู้ที่จะคอยแนะ นำสั่งสอน มีมนุษยสัมพันธ์ มีศิลปะในการพูดโน้มน้าว ชักจูงคนในการทำงาน โดยส่วนตัวรัฐมนตรีไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แต่ได้รู้จากที่ท่านเติมเต็มศักยภาพให้รัฐมนตรี เปรียบเหมือนเป็นครูให้กับรัฐมนตรีที่จะได้เรียนรู้แล้วก็นำความรู้ที่ได้สกัดออกมา แล้วนำมาดำเนินนโยบายด้วยการคิดวิเคราะห์ ปรับใช้กัน ขอฝากไว้ว่าทำอย่างไรให้หน้างานการศึกษาของเรามีคุณค่า เป็นที่ยอมรับของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ” รมว.ศธ. กล่าว
ปารัชญ์ ไชยเวช/ข่าว
พีระณัฐ ยุชยะทัต/ถ่ายภาพ
The post เสมา 1 พบผู้บริหาร สป. ศธภ. ศธจ. ฝากทบทวนการสร้างคุณค่าในตนเอง ทำให้งานการศึกษาเป็นที่ยอมรับให้ได้ appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.