เสมา 2 นำคณะ สพฐ. เ
เสมา 2 นำคณะ สพฐ. เยือ...
มติคณะรัฐมนตรี (13 พฤษภาคม 2568) เห็นชอบทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2568 – 2570 (ทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ) รวมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานให้ทุน1 และหน่วยงานทำวิจัยนำทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ ไปใช้เป็นกรอบในการพิจารณาให้ทุนและจัดทำงานวิจัยทางการศึกษาตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ
สาระสำคัญ
1. กระทรวงศึกษาธิการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2568 – 2570 (ทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ) และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานให้ทุนและหน่วยงานทำวิจัยนำทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ ไปใช้เป็นกรอบในการพิจารณาให้ทุนและจัดทำงานวิจัยทางการศึกษาตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน เนื่องจากงานวิจัยที่มีอยู่เดิมมีจำนวนมากแต่ไม่สอดคล้องกับบริบทของสังคมและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลให้หน่วยงานระดับปฏิบัติไม่สามารถนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประกอบกับประเทศไทย ยังไม่เคยจัดทำทิศทางการวิจัยด้านการศึกษามาก่อน ดังนั้น การจัดทำทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ ที่เสนอในครั้งนี้จะเป็นกรอบแนวทางในการพิจารณาการให้ทุนวิจัยแก่หน่วยงานทำวิจัย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาของประเทศไทยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
โดยมีสาระสำคัญครอบคลุม 4 ด้าน (รวม 8 ประเด็น) (1) การวิจัยเพื่อพัฒนาแนวคิด ระบบ โครงสร้างและการจัดการศึกษาที่รองรับและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ (2) การวิจัยเพื่อกำหนดระบบการผลิตและพัฒนาทักษะกำลังคน ผู้เรียน และบุคลากรทางการศึกษาที่มุ่งสู่การยกระดับผลิตภาพโดยรวมของประเทศ (3) การวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการการศึกษา ที่มุ่งสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาในระดับนานาชาติ และ (4) การวิจัยเพื่อสร้างระบบนิเวศทางการศึกษาที่สนับสนุนให้เกิดการศึกษาที่มีคุณภาพ ปราศจากความเหลื่อมล้ำและนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งคณะกรรมการสภาการศึกษา โดยมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567
2. ศธ. โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้จัดทำทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ มีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
2.1 วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสถานการณ์ ความท้าทาย แนวโน้มและทิศทางการพัฒนาและการวิจัยทางการศึกษาของไทยและต่างประเทศ เพื่อศึกษา วิเคราะห์ความต้องการ ประเด็นปัญหา และเป้าหมายทางการศึกษาที่จะนำไปสู่การพัฒนาเป็นงานวิจัยทางการศึกษา และเพื่อให้มีทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ ที่มีเป้าหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
2.2 ประเด็นวิจัยทางการศึกษา ประกอบด้วย 4 ด้าน รวม 8 ประเด็น สรุปได้ ดังนี้
ด้าน/ประเด็นวิจัยทางการศึกษา | ตัวอย่างการวิจัย | |
การวิจัยขั้นพื้นฐาน เช่น | การวิจัยในประเด็นที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น | |
ด้านที่ 1 การวิจัยเพื่อพัฒนาแนวคิด ระบบ โครงสร้าง และการจัดการศึกษาที่รองรับและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ เป้าหมาย : เพื่อให้เกิดองค์ความรู้หรือข้อเสนอใหม่ในการพัฒนาการจัดการศึกษาให้รองรับและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ทุกมิติ และมีระบบนิเวศทางการศึกษาที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลง |
||
(1) การเรียนรู้ตลอดชีวิต | – ระบบส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต – ระบบการศึกษาแบบไร้รอยต่อ – สภาพแวดล้อมและนิเวศการเรียนรู้ – ธนาคารหน่วยกิต4 |
– คุณวุฒิฉบับย่อย2 – คุณวุฒินาโน2 – การเรียนรู้รูปแบบสั้น ๆ3 – เมืองแห่งการเรียนรู้ |
(2)การศึกษาเพื่อสังคมสีเขียว5 | – นโยบายการศึกษาสีเขียวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนเพื่อสังคมสีเขียวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – การจัดการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติและทักษะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
เช่น นวัตกรรมด้านหลักสูตร สื่อ และการจัดการเรียนการสอนเพื่อสังคมสีเขียว |
ด้านที่ 2 การวิจัยเพื่อกำหนดระบบการผลิตและพัฒนาทักษะกำลังคน ผู้เรียน และบุคลากร เป้าหมาย : เพื่อให้เกิดองค์ความรู้หรือข้อเสนอใหม่ที่ใช้ในการพัฒนาทักษะของรู้เรียนทุกช่วงวัย รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาทุกประเภท ที่เพียงพอในการยกระดับผลิตภาพโดยรวมของประเทศ |
||
(1) การพัฒนาทักษะที่จำเป็น | – ทักษะในอนาคตที่ประเทศมีความต้องการ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การอ่าน – ระบบการส่งต่อและเชื่อมโยงในการพัฒนาทักษะ – ความท้าทายและโอกาสด้านทักษะ ที่สถานศึกษาเผชิญอยู่ – ความท้าทายและโอกาสด้านเงินทุน ระบบ และตลาดสำหรับการเพิ่มการมีส่วนร่วมในการศึกษาด้านเทคนิค – การฝึกงาน – การปรับหลักสูตรเพื่อมุ่งเน้นทักษะ และสมรรถนะ – การจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะ |
– นวัตกรรมระบบการพัฒนาทักษะใหม่ (Re-Skills) และการยกระดับทักษะเดิม (Up-Skills) ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน – ทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต ที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ – นวัตกรรมหลักสูตรและการเรียนการสอน ที่มุ่งเน้นทักษะและสมรรถนะ |
(2) ความเป็น พลเมืองและพลโลก6 |
– คุณลักษณะและการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองและพลโลก – การบูรณาการการบ่มเพาะความเป็นพลเมืองและพลโลกในหลักสูตรและการเรียนการสอน |
– พลเมืองดิจิทัล – ช่องว่างระหว่างรุ่น – การจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม |
ด้านที่ 3 การวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการการศึกษาที่มุ่งสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาในระดับนานาชาติ เป้าหมาย : เพื่อให้เกิดองค์ความรู้หรือข้อเสนอใหม่ในการพัฒนาการบริหารจัดการการศึกษา รวมถึงการบริหารจัดการระบบนิเวศทางการศึกษาที่นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษาในระดับนานาชาติ |
||
(1) การศึกษาที่มีคุณภาพ | – การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา – การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน – นวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อรองรับ รูปแบบการศึกษาที่หลากหลาย |
– นวัตกรรมการเรียนการสอน – นวัตกรรมการแนะแนว – นวัตกรรมการติดตามประเมินผล – แพลตฟอร์มการศึกษา |
(2) ความเสมอภาค – ลดความเหลื่อมล้ำ | – ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม กับบริบทโรงเรียน/พื้นที่ – ระบบการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง – การมีส่วนร่วมและบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ในการจัดการศึกษา – การกระจายทรัพยากรเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา – มาตรการเชิงระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของโรงเรียน |
– นวัตกรรมสนับสนุนการเข้าถึงการเรียนรู้ – นวัตกรรมการเงินเพื่อการศึกษา |
(3) ประสิทธิภาพทางการศึกษา | – การลงทุน การจัดสรรและการใช้ทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุด – การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการลงทุนเพื่อการศึกษา |
– นวัตกรรมการเงินเพื่อการศึกษา7 – ช่องว่างระหว่างรุ่นและการปิดช่องว่าง ระหว่างรุ่น – การฟื้นฟูภาวะการเรียนรู้ถดถอย |
ด้านที่ 4 การวิจัยเพื่อสร้างระบบนิเวศทางการศึกษาที่สนับสนุนให้เกิดการศึกษาที่มีคุณภาพปราศจากความเหลื่อมล้ำ และนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป้าหมาย : เพื่อให้เกิดองค์ความรู้หรือข้อเสนอใหม่ที่เอื้อให้เกิดระบบนิเวศทางการศึกษาที่เหมาะสม กับการจัดการศึกษาในปัจจุบัน |
||
เทคโนโลยี เพื่อการศึกษา/การเรียนรู้ |
– โอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา และประชาชน – การบูรณาการเทคโนโลยีกับการเรียนการสอน – ความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี – ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) – การวัดผลกระทบของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อใช้สนับสนุนครูและนักเรียน |
– การนำเทคโนโลยีและ AI มาใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ – การพัฒนานวัตกรรมหลักสูตรที่มุ่งเน้น ทักษะและสมรรถนะด้านสื่อเทคโนโลยีและ AI เพื่อการเรียนรู้ |
2.3 ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ สรุปได้ ดังนี้
หัวข้อ | ข้อเสนอแนะในการนำไปสู่การปฏิบัติ |
การวางแผน (P-Planning) |
– สกศ. เสนอคณะกรรมการสภาการศึกษาและคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ ทิศทางการวิจัยทางการศึกษาฯ (เสนอในครั้งนี้) และจะเผยแพร่ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหรือประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ8 ได้นำไปใช้ในการกำหนดแผนและขับเคลื่อนทิศทางการวิจัยทางการศึกษาต่อไป – หน่วยงานที่มีภารกิจและเกี่ยวข้องในการวิจัยทางการศึกษา จัดทำแผนการวิจัย ที่สอดคล้องกับทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของชาติ |
การจัดการและการจัดองค์กร (O-Organization) |
– สกศ. จัดให้มีเวทีการหารือเชิงนโยบายของหน่วยงานให้ทุนอุดหนุนการวิจัยเพื่อสนับสนุนทุนวิจัยที่มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน เพื่อสร้างความร่วมมือและขยายความร่วมมือไปสู่การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนากลไกในการบูรณาการและประสานความร่วมมือในระบบการวิจัยทางการศึกษา – หน่วยงานให้ทุนวิจัย8 และ สกศ. ส่งเสริมและสนับสนุนนักวิจัยและบุคลากรในระดับอุดมศึกษาให้มีส่วนร่วมในการวิจัยเชิงนโยบายกับภาครัฐมากยิ่งขึ้น – หน่วยงานที่มีภารกิจและเกี่ยวข้องในการวิจัยทางการศึกษากำหนดบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินงานวิจัยทางการศึกษาอย่างชัดเจนและเหมาะสม |
การนำ (L-Leading) |
– สกศ. จัดให้มีเวทีหรือแพลตฟอร์มเพื่อขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงานมากขึ้น ส่งผลให้สามารถผลิตงานวิจัยที่สอดคล้องกับการใช้งานได้ – หน่วยงานที่มีการวิจัยทางการศึกษา8 ควรกำหนดแรงจูงใจ การออกแบบงานไว้ในแผนเพื่อการบรรลุเป้าหมาย |
การควบคุม (C-Controlling) |
– สกศ. ร่วมกับหน่วยงานให้ทุนวิจัยและสถาบันอุดมศึกษาในการส่งเสริมการพัฒนาการวิจัยทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป – สกศ. ติดตามผล รายงานผล และประเมินผลในภาพรวม – หน่วยงานที่มีโครงการวิจัยทางการศึกษาติดตามผล รายงานผล และประเมินผลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ |
3. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับและผลกระทบที่เกิดขึ้น
มีทิศทางการวิจัยทางการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่งผลให้หน่วยงาน/ ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางในการจัดทำวิจัยอย่างเป็นระบบ มุ่งไปทิศทางเดียวกันตอบโจทย์ความต้องการทางการศึกษาอย่างแท้จริง
____________________________________
1จากการประสานข้อมูลเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) แจ้งว่า หน่วยงานให้ทุน เช่น สำนักงานส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
2คุณวุฒิฉบับย่อยมุ่งเน้นการเรียนและพัฒนาทักษะเฉพาะและจำเป็น โดยอาจมีหน่วยกิตการเรียน 5-25 หน่วยกิตและคุณวุฒินาโน มุ่งเน้นการเรียนและพัฒนาทักษะเฉพาะและจำเป็นในระยะเวลาสั้น ๆ โดยอาจมีหน่วยกิตการเรียน 1-4 หน่วยกิต เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาความรู้ที่จำเป็นและเหมาะสมต่อการประกอบอาชีพ (ปัจจุบันได้มีการกำหนดจำนวนหน่วยกิตรวมในหลักสูตรการศึกษา ซึ่งรวมถึงหลักสูตรปริญญาตรีที่มีระยะการศึกษา 4 ปี มีหน่วยกิตการเรียนรวมไม่เกิน 120 หน่วยกิต)
3การเรียนรู้รูปแบบสั้น ๆ เป็นการเรียนรู้ในระยะเวลาสั้น ๆ ที่เน้นเนื้อหาเฉพาะเรื่อง ซึ่งผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตหรือการทำงานจริงได้
4ธนาคารหน่วยกิต คือ ระบบทะเบียนสะสมหน่วยกิตและการเทียบโอนผลการเรียนรู้ที่ได้จากการศึกษาในระบบต่าง ๆ เช่น การศึกษาในระบบและนอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย หรือผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ได้จากการฝึกอบรม และผู้เรียนสามารถเทียบโอนหน่วยกิตระหว่างสถานศึกษาได้
5การศึกษาเพื่อสังคมสีเขียว หมายถึง แนวทางการศึกษาและหลักสูตรที่ส่งเสริมความรู้ ทักษะและจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมความยั่งยืน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
6ความเป็นพลเมืองและพลโลก หมายถึง การพัฒนาความรู้ ทักษะ และค่านิยมที่จำเป็นสำหรับการเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในชุมชนประเทศ และโลก ส่งเสริมความข้ามในความหลากหลายทางวัฒนธรรม สิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรม และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมที่ยังยืน
7 ปัจจุบันมีหน่วยงานที่พัฒนาทักษะทางการเงินให้แก่บุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินโครงการครูสตางค์ เพื่อพัฒนาและสร้างเครือข่ายครูแกนนำที่มีประสบการณ์ในการนำความรู้ทางการเงินไปประยุกต์ใช้ในห้องเรียนจริง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างห้องเรียนการเงินในสถานศึกษาเพื่อสร้างเกราะป้องกันทางการเงินให้แก่เด็กไทยและต่อยอดสู่ความเป็นอยู่ทางการเงินที่ดีตลอดชีวิต (ข้อมูลจาก http://www.bot.or.th) และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ดำเนินการให้ทุนเสมอภาคเพื่อสนับสนุนค่าครองชีพ ค่าอาหาร และค่ากิจกรรมต่าง ๆ แก่นักเรียนด้อยโอกาส ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งของนวัตกรรมทางการเงินเพื่อการศึกษา (ข้อมูลจาก www.eef.or.th)
8 จากการประสานข้อมูลเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 สกศ. แจ้งว่า (1) หน่วยงานที่มีภารกิจและเกี่ยวข้องในการวิจัยทางการศึกษา คือ หน่วยงานที่มีภารกิจการวิจัยโดยตรง เช่น สกศ. (2) หน่วยงานให้ทุนวิจัย คือ หน่วยงานที่มีการจัดสรรทุนให้กับผู้วิจัย เช่น สถสว. วช. และ (3) หน่วยงานที่มีการวิจัยทางการศึกษา คือ หน่วยงานที่ไม่มีภารกิจการวิจัยโดยตรงแต่เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการวิจัยทางการศึกษาเช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน/อินโฟกราฟิก
The post ครม.เห็นชอบทิศทางการวิจัยทางการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2568-2570 appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.