8 ธันวาคม 2568 – นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.5 กอ.รมน.) ณ ห้องประชุมจันทรเกษม อาคารราชวัลลภ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการบริหารการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.)

ซึ่งการประชุมนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม และอาชีพ โดยเน้นยกระดับคุณภาพการศึกษาเพื่อสันติสุข

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำวัตถุประสงค์ข้อที่ 4 ซึ่งเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน คือ การยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาทุกระดับให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ และสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างสันติสุขและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดการศึกษาในพื้นที่ชายแดนใต้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น แต่รวมถึงครอบครัว หน่วยงานปกครอง และสาธารณสุข เนื่องจากเด็กใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนเพียง 5-6 ชั่วโมงต่อวัน ความท้าทายและผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในส่วนของการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่ายังมีประเด็นที่ต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ โดยเฉพาะภาษาไทย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่

นอกจากนี้ ปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษา ได้แก่ การที่นักเรียนต้องแบกรับภาระการเรียนที่หนักเกินไปจากการเรียนสายสามัญพร้อมกับสายศาสนานอกเวลาเรียน ข้อจำกัดด้านภาษาที่กระทบต่อการเข้าถึงโอกาส และปัญหานักเรียนออกกลางคัน

อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในระดับมัธยมศึกษามีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่าคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 27.85 เป็น 29.38 คะแนน โดยรายวิชาวิทยาศาสตร์มีพัฒนาการโดดเด่นที่สุด เช่นเดียวกันกับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่คะแนนเฉลี่ยรวมเพิ่มขึ้นจาก 24.81 เป็น 26.38 คะแนน

ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นตรงกันว่า ปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขคือ ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ โดยเฉพาะภาษาไทย ที่เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ และเพื่อสร้างรายได้และภูมิคุ้มกันทางสังคมให้แก่เยาวชน จึงได้มีการกำหนดแนวทางการส่งเสริมอาชีพ จึงได้วางแผนขับเคลื่อนเชิงรุกด้วยหลักสูตรบูรณาการและทักษะอาชีพ ปี 2569

โดยกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดกิจกรรมและแผนงานเพื่อขับเคลื่อนการศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญที่มุ่งเน้นการบูรณาการและการสร้างความมั่นคง ดังนี้

• การเสริมสร้างความมั่นคงและความเข้าใจชาติ กระทรวงศึกษาธิการได้เสริมเนื้อหาด้าน “หน้าที่พลเมือง ประวัติศาสตร์ชาติไทย และกิจกรรมลูกเสือ” เพื่อปลูกฝังค่านิยมรักชาติ นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนหลักสูตรอิสลามศึกษา และการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในสังคมพหุวัฒนธรรมด้วยกระบวนการลูกเสือ

• การพัฒนาทักษะภาษาและวิชาการ มีการส่งเสริมการใช้ภาษาที่หลากหลาย โดยผลักดันการเรียนรู้ทั้งภาษาไทย ภาษามลายูถิ่น และภาษามลายูกลาง ควบคู่กับภาษาต่างประเทศ ในปีที่ผ่านมามีการจัดเวทีแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ถึง 5 ภาษา เพื่อสร้างโอกาสการแสดงศักยภาพของนักเรียน

• การสร้างโอกาสทางอาชีพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมอาชีพให้เยาวชนเพื่อสร้างรายได้และภูมิคุ้มกันทางสังคม โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ดำเนินการตั้ง “ศูนย์ฝึกอาชีพ 23 แห่ง” ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้เยาวชนเข้าถึงการฝึกอาชีพได้สะดวกยิ่งขึ้น

• การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีแผนงานโครงการ “AI เพื่อการศึกษาสร้างสรรค์อนาคตจังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถและสมรรถนะใหม่ ๆ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมายังมีการอบรมครูโรงเรียนเอกชนในการใช้เครื่องมือ AI อาทิ Prompt ChatGPT, Grok และ Claude ในการจัดทำชุดการเรียนรู้แบบองค์รวม

ในการดำเนินการเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานการศึกษาในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.), กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.), ศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศค.จชต.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)

ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังมีความประสงค์ให้ กอ.รมน. (ศปป.5 กอ.รมน.) สนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บรรลุผลสำเร็จและทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ

ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นตรงกันว่า ปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขคือ ปัญหาการอ่านออกเขียนได้ โดยเฉพาะภาษาไทย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ และเพื่อสร้างรายได้และภูมิคุ้มกันทางสังคมให้แก่เยาวชน จึงได้มีการกำหนดแนวทางการส่งเสริมอาชีพ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ดำเนินการตั้ง “ศูนย์ฝึกอาชีพ 23 แห่ง” ในพื้นที่ห่างไกล เพื่ออำนวยความสะดวกให้เยาวชนสามารถเข้าถึงการฝึกอาชีพได้ง่ายยิ่งขึ้น การดำเนินงานดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวว่า การจัดการศึกษาในพื้นที่ชายแดนใต้ไม่ใช่ภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการเพียงหน่วยงานเดียว แต่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งครอบครัว หน่วยงานปกครอง และสาธารณสุข เนื่องจากเด็กใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนเพียงวันละ 5–6 ชั่วโมงเท่านั้น จึงจำเป็นต้องบูรณาการทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนา

ด้านการสร้างความเข้าใจและความมั่นคงผ่านการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการได้เสริมเนื้อหา “หน้าที่พลเมือง ประวัติศาสตร์ชาติไทย และกิจกรรมลูกเสือ” รวมไปถึงกิจกรรมด้านอื่น ๆ เพื่อปลูกฝังค่านิยมรักชาติ นอกจากนี้ กระทรวงยังมีบทบาทในการสนับสนุนหลักสูตรอิสลามศึกษา ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ชายเเดนภาคใต้

สุกัญญา จันทรสมโภชน์ และ ปวีณา ดาคำ /ข่าว-กราฟิก

ศศิวัฒน์ แป้นคุ้มญาติ / ภาพ

ภาพเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/share/p/16RVpLyeXL/?mibextid=wwXIfr

The post ปลัด ศธ. “สุเทพ” หารือ กอ.รมน. เร่งยกระดับคุณภาพการศึกษาชายแดนใต้ เน้นแก้ปัญหาการอ่านเขียนภาษาไทยเสริมประวัติศาสตร์ชาติไทย-การอาชีพ appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post