17 ตุลาคม 2568 – ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมและมอบนโยบายสำคัญด้านการพัฒนาอาชีวศึกษา ภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีคุณธรรม” และ ”การพัฒนาอาชีวศึกษาไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุค VUCA World” โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมด้วยรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้แก่ นายวิทวัต ปัญจมะวัต นายสง่า แต่เชื้อสาย นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ตลอดจนคณะที่ปรึกษา สอศ. ผู้บริหาร สอศ.จากส่วนกลาง ผู้บริหารสถาบันอาชีวศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษารัฐและเอกชนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมกว่า 1,000 คน ณ ห้องมงกุฎเพชรแกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น

ศาสตราจารย์นฤมล กล่าวว่า หลายคนเมื่อพูดถึง “อาชีวะ” มักจะนึกถึงเด็กช่างกล เด็กเทคนิค แต่จริง ๆ แล้ว อาชีวะมีสายวิชาชีพที่หลากหลายมาก ทั้งสายซอฟต์สกิล เช่น วิชาชีพทางสิ่งทอ การตัดเย็บ อาหาร การโรงแรม และอีกมากมาย ซึ่งยังไม่ค่อยได้รับการประชาสัมพันธ์เท่าที่ควร ซึ่งในวันนี้ได้เห็นน้อง ๆ อาชีวศึกษาที่ร่วมมือกับกรมที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมธนารักษ์ จัดโครงการผลิตและพัฒนากำลังคนคุณภาพสูง เพื่อให้ส่วนราชการมีกำลังคนคุณภาพที่พร้อมปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีมาก โดยวานนี้ในการหารือร่วมกับสถานศึกษาอาชีวะเอกชนได้บอกไปแล้วว่า ควรเปิดโอกาสให้วิทยาลัยเอกชนเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย เพราะเขาก็คือลูกหลานของเราเหมือนกัน เพียงแต่เรียนอยู่ในสถานศึกษาเอกชน หากเปิดให้เข้าร่วม ก็จะเป็นโอกาสให้ได้บรรจุเป็นข้าราชการเช่นกัน และหน่วยราชการเองก็จะได้บุคลากรรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ

ขณะนี้ ส.ป.ก. มีตำแหน่งว่างจำนวนมาก โดยเฉพาะสายงาน “ช่างสำรวจ” ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการเร่งออกโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรในอดีต เมื่อครั้งตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงถือเป็นโอกาสทองของอาชีวศึกษาในการผลิตคนตรงสาขา เพื่อรองรับความต้องการของประเทศ

ศาสตราจารย์นฤมล กล่าวต่อถึงประเด็นสำคัญที่รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาทุกฝ่ายเห็นพ้องกัน คือ ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา โดยระบบการศึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นสายสามัญเท่านั้น และทาง สอศ. และ สกร. สามารถเป็นแกนหลักในการค้นหาและตามเด็ก ๆ กลับเข้ามาสู่ระบบได้ ซึ่งการเรียนสายอาชีพกับการเรียนรู้ของ สกร. เป็นทางอีกทางเลือกที่จะเรียนแล้วมีงานทำแน่ ๆ ไม่ใช่เรียนเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษาเท่านั้น จึงได้ฝากให้เลขาธิการ กอศ. และอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ดำเนินการติดตามเด็กที่หลุดออกจากระบบกลับมาให้ได้มากที่สุดในสมัยที่อาจารย์เป็นรัฐบาล

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์นฤมล ได้กล่าวถึงข้อเสนอจากอาชีวะเอกชน เรื่องสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับภาคเอกชนที่ให้ทุนการศึกษา ซึ่งสิทธิดังกล่าวสิ้นสุดไปตั้งแต่ปี 2567 โดยยืนยันว่า จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ฟื้นสิทธินี้กลับมา เพราะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และภาคเอกชนได้ลดหย่อนภาษี นักศึกษาได้ทุนเรียน ตลาดแรงงานได้คนตรงสาขา วันนี้ขอบคุณผู้บริหารอาชีวศึกษาทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่สะท้อนปัญหาในพื้นที่ เช่น เรื่องอัตรากำลัง ทรัพยากร และเครื่องมือฝึกที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งอาจารย์จะเร่งผลักดันให้ทุกวิทยาลัยมีความพร้อมเต็มที่ในการพัฒนาผู้เรียน

“อาชีวะในวันนี้ไม่ใช่เด็กตีกันอีกต่อไป แต่คือ อาชีวะสร้างชาติ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วในทุกสถานการณ์ ทั้งภารกิจอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ, Fix it Center, Fix it จิตอาสา ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือสังคมทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจะน้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือดินถล่ม อาชีวะอยู่แนวหน้าเสมอ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นมาก แต่ภารกิจเหล่านี้ก็ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงจะผลักดันให้ทุกสถานศึกษามีความพร้อมและได้รับการสนับสนุนอย่างดีที่สุด รวมทั้งนโยบายการศึกษาต่าง ๆ ที่จะผลักดันให้สำเร็จภายในรัฐบาลสมัยนี้ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ เพื่อขจัดปัญหา อุปสรรคในการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ มีรายได้, การปรับปรุงระบบวิทยฐานะ ที่จะปรับเกณฑ์การประเมินครูอาชีวะ ให้สอคคล้องและเหมาะสมกับความก้าวหน้าในวิชาชีพสาขาต่าง ๆ, การแก้ปัญหาหนี้สินครูฯ” ศาสตราจารย์นฤมล กล่าวย้ำ

ธรรมนารี ชดช้อย / เรียบเรียง, กราฟิก
สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ/ภาพ, ข่าว

The post รมว.ศธ. “นฤมล” ลั่นอาชีวะไม่ใช่แค่เด็กช่างอีกต่อไป! พร้อมเดินหน้านโยบาย “เรียนดี มีคุณธรรม” เปิดทางเอกชนร่วมผลิตกำลังคนคุณภาพ appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post