รู้ทัน 7 ขั้นตอน! แกะรอยกลโกง “ทำงานออนไลน์” 

ในยุคดิจิทัล ข้อเสนอ “งานง่าย รายได้ดี” ผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป
ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์ ดูวิดีโอ หรือรีวิวสินค้า ข้อเสนอเหล่านี้มักมาพร้อมกับคำสัญญาถึงผลตอบแทนที่สูงเกินจริง
ทำให้หลายคนหลงเชื่อและตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว
เบื้องหลังคำเชิญชวนที่ดูน่าดึงดูดใจนี้ คือหลุมพรางดิจิทัลที่ขุดรอไว้ลึกกว่าที่คิด
คนร้ายไม่ได้แค่รอให้เราพลาด แต่พวกเขาสร้างเส้นทางที่คำนวณมาอย่างดีเพื่อหลอกล่อให้เราเดินตาม
บทความนี้จะเปิดโปงกลโกง “ทำงานออนไลน์”  เพื่อให้คุณมองเห็นสัญญาณอันตรายและป้องกันตัวเองได้ก่อนที่จะสายเกินไป
กลโกงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่ดำเนินไปตามแผนการที่ออกแบบมาเพื่อเล่นกับจิตวิทยาของมนุษย์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
การทำความเข้าใจแต่ละขั้นตอน คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของคุณ หัวใจสำคัญของขบวนการนี้สรุปได้ง่ายๆ 
มิจฉาชีพทำงานเป็นทีม ใช้แชตปลอม + กลุ่มหลอก + หน้าม้าปั้นเรื่อง = ความน่าเชื่อถือปลอม ๆ

1 ขั้นตอนที่ 1: การล่อเหยื่อ – ดึงดูดด้วยโฆษณา

มิจฉาชีพจะเริ่มต้นด้วยการหว่านเหยื่อผ่านการยิงโฆษณาออนไลน์ หรือส่งข้อความเข้ามาโดยตรง
โดยใช้โพสต์ปลอมที่พาดหัวว่า “งานง่าย รายได้ดี” เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ที่กำลังมองหารายได้เสริม
กลยุทธ์นี้ได้ผลเพราะมันตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานของผู้คน ที่มองหาโอกาสในการสร้างรายได้ที่ง่ายและให้ผลตอบแทนสูง

2 ขั้นตอนที่ 2: สร้างความไว้ใจจอมปลอม – ภาพลวงตาในกลุ่มแชต

เมื่อเหยื่อติดกับ จะถูกดึงเข้าไปยังกลุ่มแชตที่มี “หน้าม้า” แฝงตัวอยู่เต็มไปหมด
หน้าม้าเหล่านี้จะแสร้งทำเป็นผู้ร่วมทำภารกิจคนอื่นๆ คอยพูดคุย ส่งสลิปปลอม และสร้างบรรยากาศที่ดูน่าเชื่อถือ
ทำให้เหยื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวและโครงการนี้เป็นของจริง
นี่คือการใช้หลักจิตวิทยาที่เรียกว่า “Social Proof” หรือการคล้อยตามสังคม
มิจฉาชีพสร้างภาพของ ‘ห้องแชตที่คึกคัก’ ซึ่งเต็มไปด้วยความสำเร็จจอมปลอม
ทำให้เหยื่อรู้สึกว่านี่คือขบวนรถไฟที่กำลังจะออกจากชานชาลา ถ้าไม่รีบขึ้นตอนนี้อาจ ‘ตกรถ’

3 ขั้นตอนที่ 3: การวางเหยื่อ – เริ่มต้นด้วยภารกิจง่ายๆ

ในช่วงแรก มิจฉาชีพจะมอบหมาย “ภารกิจง่าย ๆ” ให้ทำ เช่น การกดไลก์เพจ,
ดูคลิปวิดีโอ, หรือเขียนรีวิวสินค้าสั้นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและทำให้เหยื่อรู้สึกว่างานนี้ง่ายและได้เงินจริง

4 ขั้นตอนที่ 4: การจ่ายเงินทิพย์ – โชว์ยอดเงินที่ถอนไม่ได้

หลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้น เหยื่อจะเห็นยอดเงินรายได้ปรากฏขึ้นในระบบหรือแดชบอร์ดที่มิจฉาชีพสร้างขึ้น
แต่มันคือ ‘เงินทิพย์’  เป็นเพียงตัวเลขลอยๆ ที่ไม่มีอยู่จริงและไม่สามารถถอนออกมาได้
การได้เห็น ‘ตัวเลข’ ในระบบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหยื่อเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของเงินก้อนนั้นไปแล้วทางจิตใจ (Psychological Ownership)
ทั้งที่ยังไม่เคยได้สัมผัสเงินจริงแม้แต่บาทเดียว สิ่งนี้ทำให้พวกเขายอมทำทุกทางเพื่อ ‘ปกป้อง’ และ ‘นำ’ เงินของตนเองออกมา

5 ขั้นตอนที่ 5: จุดเปลี่ยน – ค่าธรรมเนียม ‘ปลดล็อค’

นี่คือหัวใจของกลโกงทั้งหมด มิจฉาชีพจะอ้างว่าเกิดข้อผิดพลาดบางอย่างในระบบ
หรือเหยื่อ “ทำขั้นตอนผิด” ทำให้ไม่สามารถถอนเงินได้
และวิธีแก้ไขเพียงทางเดียวคือต้องโอนเงินของตัวเองเข้าไปก่อนเพื่อ “ปลดล็อก” ยอดรายได้ทั้งหมด

6 ขั้นตอนที่ 6: เร่งเครื่องความกดดัน – ปั้นเรื่องราวความสำเร็จปลอม

ขณะที่เหยื่อกำลังลังเล หน้าม้าในกลุ่มจะเริ่มปฏิบัติการกดดัน
โดยจะพร้อมใจกันโพสต์ข้อความว่าตนเองได้โอนเงินเพื่อปลดล็อกแล้ว
และได้รับเงินก้อนโตกลับคืนมาเรียบร้อยแล้ว การกระทำนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงกดดันทางสังคม
ทำให้เหยื่อรู้สึกกลัวที่จะพลาดโอกาสและถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

7 ขั้นตอนที่ 7: การบีบคั้นครั้งสุดท้าย – ใช้ความกลัวและความสงสาร

หากเหยื่อยังคงไม่ยอมโอนเงิน มิจฉาชีพจะใช้ไม้แข็งและไม้อ่อนเข้าบีบคั้นเป็นครั้งสุดท้าย โดยใช้ 2 กลยุทธ์หลักคือ
• ความกลัว: ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายหาว่าทำให้บริษัทเสียหาย
• ความสงสาร: อ้อนวอน ขอความเห็นใจ เพื่อหลอกให้โอนเงินอีกเป็นครั้งสุดท้าย
จะเห็นได้ว่ากลโกงภารกิจออนไลน์เป็นกระบวนการที่วางแผนมาอย่างดีเพื่อใช้ประโยชน์จากจิตวิทยาของมนุษย์
ตั้งแต่การสร้างความหวังไปจนถึงการใช้แรงกดดันทางสังคม
งสำคัญที่สุดที่คุณต้องจำไว้คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ ‘งาน’ ที่คุณทำ เรียกร้องให้คุณต้อง ‘จ่ายเงิน’ เพื่อที่จะได้รับเงินค่าจ้าง นั่นคือสัญญาณของมิจฉาชีพ 100%

หากเจออะไรไม่ชอบมาพากล โทรปรึกษาสายด่วนตำรวจไซเบอร์ได้ทันทีที่เบอร์ 1441

The post รู้ทัน!! 7 กลโกง “ทำงานออนไลน์ลวงโลก” appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post