MOU Thai – Korea
MOU Thai-Korea The post MOU Thai – Korea appeared fir...
รมว.ศธ. “เพิ่มพูน” เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 18/2568 เน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ผ่านการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมรับการประเมิน PISA และ O-NET พร้อมเน้นย้ำการใช้ทรัพยากรและงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือกันเป็น “ทีมสนับสนุน” เพื่อให้นักเรียนไทยเติบโตเป็นผู้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” อย่างรอบด้าน พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานกิจกรรมโรงเรียนพี่เลี้ยงคู่พัฒนา เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ในการเตรียมข้อมูล ข้อเสนอ และผลการดำเนินงานที่สำคัญในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
4 มิถุนายน 2568 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 18/2568 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และผ่านระบบ e-Meeting
ภายหลังการประชุม รมว.ศธ. พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ. ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ สกศ. และนายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการ กอศ. แถลงข่าว ณ ห้องแถลงข่าว
รมว.ศธ. กล่าวว่า การสื่อสารนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ขอให้ขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อไป เพื่อให้ผู้เรียน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด หมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ “ดั่งมีดที่คม ต้องมีการหมั่นลับคมอยู่เสมอ” ความรู้ก็เช่นเดียวกัน เพื่อเป้าหมายของพวกเราคือความเจริญก้าวหน้าของ “ประเทศชาติ” เป็นสำคัญ
ภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (วาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ) เมื่อวันที่ 28 – 31 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีการอภิปรายและพิจารณาในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะในด้านความเหลื่อมล้ำและคุณภาพการศึกษา หลักสูตรการศึกษาครูและบุคลากรทางการศึกษา อาชีวศึกษา การทุจริตคอร์รัปชัน การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และประเด็นอื่น ๆ ซึ่งผลการลงมติที่ประชุมมีมติรับร่างหลักการตามพระราชบัญญัติงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยกระทรวงศึกษาธิการจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการตามนโยบายและแผนงานที่กำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ
ในขั้นตอนถัดไป ศธ. จะต้องดำเนินการวางแผนงานและเตรียมความพร้อมสำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ในวาระที่ 2 จะเป็นการพิจารณารายละเอียดของงบประมาณในระดับรายจ่ายแผนงาน/โครงการ ฝากไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกแห่งให้เร่งดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ถูกต้อง และพร้อมสำหรับการนำเสนอ รวมถึงเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุด
“อีกประการหนึ่งที่สำคัญ ในขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่มีความแปรปรวน รวมถึงยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในบางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะในสถานศึกษา จึงขอให้ทุกคน หมั่นดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน”
สรุปสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้
การขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล PISA
รมว.ศธ. กล่าวว่า มิติของการดำเนินการตามแผนงานต่าง ๆ ขอให้ “สร้างเครือข่าย ขยายความร่วมมือ และการสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด” ระหว่างเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมของนักเรียนไทยสู่การประเมิน PISA ที่จะมาถึงนี้
ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2568 มุ่งเน้นแนวทางการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพ 3 ด้าน สู่เด็กไทย “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” เสริมทักษะเพื่อการอ่านจับประเด็น ตีความ สะท้อนความคิด สู่การพัฒนากระบวนการคิดผ่านวิทยาศาสตร์ เพื่อประยุกต์ใช้กระบวนการคณิตศาสตร์สู่การแก้ปัญหา และสำหรับผลการดำเนินงานกิจกรรมโรงเรียนพี่เลี้ยงคู่พัฒนา เป็นการยกระดับควบคู่กัน ผ่านรูปแบบแพลตฟอร์ม การใช้ทรัพยากรในโรงเรียน การนำนักเรียนมาฝึกปฏิบัติ และการประชุมแลกเปลี่ยนทั้ง Onlineและ On site มีเป้าหมายการดำเนินการใน 246 (245+กทม.) เขตพื้นที่การศึกษา 29,082 โรงเรียน ในขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว ใน 87 เขตพื้นที่ 187 โรงเรียน
ในระยะต่อไปจะมีการให้โรงเรียนพี่เลี้ยง คือ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย 12 แห่ง โรงเรียนประจำจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เพื่อขยายผลไปยังโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนขยายโอกาสฯ โรงเรียนมัธยมขนาดเล็กและขนาดกลาง และโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ที่ยังขาดทักษะรายวิชาเอก ให้มีการพัฒนาควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพทางการศึกษาของนักเรียนทุกแห่ง
ซึ่งสิ่งที่ได้จากการจัดกิจกรรมจะมีการบริหารจัดการหลักสูตรและโครงสร้าง ครูมีเทคนิคการสอนและการเติมเต็มสมรรถนะความฉลาดรู้ของนักเรียน มีรูปแบบการเป็นโค้ดในการฝึกระบบคอมพิวเตอร์ มีแหล่งทรัพยากรและบุคลากรที่สามารถใช้ร่วมกันและประสานความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพ วิธีการบริหารจัดการคุณภาพห้องเรียนและการจัดการการเรียนรู้สื่อสาร 2 ทาง
สำหรับแผนการดำเนินงานยกระดับของนักเรียนโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายและนักเรียนทุกคนในปีการศึกษา 2568 มีกิจกรรมที่สำคัญคือการสอบ PRE PISA ม.2 ซึ่งจะเป็นการสอบประเภทการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ การสอบ O-NET ม.3 ในวิชาภาษาไทยวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กิจกรรมปิดเทอมใหญ่ซึ่งจะมีแผนการดำเนินงานในการให้นักเรียนมีการค้นคืนสาระ หรือการที่นักเรียนได้นำประสบการณ์หรือความรู้ที่ได้จากกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียนมาทบทวน สรุป เชื่อมโยงเข้ากับบทเรียนหรือทักษะชีวิต การบูรณาการและการตีความรวมทั้งการจับประเด็น ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้มีการวางแผนการดำเนินงานตามไทม์ไลน์ ในช่วงมิถุนายน 2568 ถึงเดือนกันยายน 2568 ก่อนปิดเทอมใหญ่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2569
พัฒนาการการศึกษาไทย ปี 2012 – 2024
รมว.ศธ. กล่าวว่า มิติในด้านการศึกษาของประเทศไทยนั้นพบว่ามีความสมดุลมากขึ้น มีทิศทางที่ดีขึ้น จึงฝากในเรื่องของอัตราการเข้าเรียนของประเทศไทย โดยเฉพาะใน สช. เป็นการเข้าเรียนของนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติมีจำนวนมากน้อยเพียงใด และนักเรียนยังคงอยู่ในระบบการศึกษาจบการศึกษาขั้นพื้นฐานและศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นมากน้อยเพียงใด
ภาพรวมของการศึกษาประเทศไทยในเวทีนานาชาติช่วงระยะเวลากว่า 13 ปีที่ผ่านมา (ค.ศ. 2012 – 2024) ว่ามีความคืบหน้าในหลายมิติ โดยการประเมินเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในระดับสากลครอบคลุม 5 มิติ คือ คุณภาพผู้เรียน การเข้าถึงระบบการศึกษา ความเท่าเทียม ประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา และการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม
สำหรับมิติด้านคุณภาพผู้เรียน ประเทศไทยยังคงมีผลคะแนนการทดสอบ PISA ในรายวิชาคณิตศาสตร์อยู่ในระดับคงที่มาโดยตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณภาพทางวิชาการของนักเรียนไทยยังไม่สามารถขยับขึ้นได้ตามเป้าหมายและความคาดหวัง แม้จะมีการปฏิรูปหลักสูตรและการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง มิติด้านการเข้าถึงระบบการศึกษา ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาที่อัตราการเข้าเรียนสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2024 ที่มีค่าเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 93 และเด็กไทยมีโอกาสได้รับการศึกษามากขึ้น
สำหรับมิติความเท่าเทียมทางการศึกษา ประเทศไทยมีแนวโน้มจำนวนปีการศึกษาที่คาดหวังดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2024 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 15.6 ปี มิติด้านประสิทธิภาพของการจัดการศึกษา แม้ประเทศไทยจะใช้งบประมาณด้านการศึกษาคิดเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อยต่อ GDP แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลคะแนน PISA พบว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับนานาประเทศ และมิติการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะอัตราประชากรวัยหนุ่มสาว (อายุ 25 – 34 ปี) ที่สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2024 มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 36
“ประเทศไทยยังต้องเร่งยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในบางมิติ แต่ภาพรวมของการพัฒนาโดยเฉพาะเรื่องการเข้าถึงและความเท่าเทียมถือว่ามีการดำเนินงานอย่างถูกทาง สิ่งสำคัญคือการเชื่อมโยงนโยบายการจัดการเรียนรู้ และทรัพยากร ให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน”
รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2568
รมว.ศธ. กล่าวว่า สำหรับมิติที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณต่าง ๆ นั้น จากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ที่ผ่านมา มีข้อแนะนำต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ สามารถนำมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงการดำเนินงานได้ ทั้งในด้านการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับความต้องการ การบริหารงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อผู้เรียนและสถานศึกษา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันพิจารณาและดำเนินการตามข้อเสนอแนะอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุดและสามารถตอบสนองต่อเป้าหมายการยกระดับคุณภาพการศึกษา
การจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนอาเซียน ประจำปี 2568
รมว.ศธ. กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือและความตั้งใจของทุกภาคส่วน ทำให้สามารถดำเนินการจัดกิจกรรมที่สำคัญต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ จึงขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วม และขอให้ยังคงร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งในด้านทรัพยากร บุคลากร สถานที่ ตลอดจนการส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมของเยาวชน ซึ่งจะมีการแถลงข่าวการจัดกิจกรรมฯ ในวันพุธที่ 11 มิถุนายน นี้ ณ ห้องแถลงข่าวกระทรวงศึกษาธิการ ภายหลังการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 19/2568
สำหรับการจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนอาเซียนแห่งชาติ ประจำปี 2568 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 มิถุนายน 2568 ณ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยจะมีเยาวชนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย อันจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับเยาวชน และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีในประชาคมอาเซียนต่อไป
การเตรียมการประชุม ครม. สัญจร
รมว.ศธ. กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ระหว่างวันที่ 23 – 24 มิถุนายน 2568 ขอความร่วมมือจากผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานในสังกัด ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค รวมถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในพื้นที่กลุ่มจังหวัด เตรียมข้อมูล ข้อเสนอ และผลการดำเนินงานที่สำคัญในมิติต่าง ๆ ให้พร้อมนำเสนอต่อที่ประชุม พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ ข้อมูล เอกสารประกอบ และการต้อนรับคณะรัฐมนตรี ตลอดจน อำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมพื้นที่หรือโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“ฝากถึงผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านว่า การทำงานด้านการศึกษานั้นเป็นภารกิจที่ต้องอาศัยความร่วมมือ ความเข้าใจ และการเปิดใจรับฟังมุมมองที่หลากหลาย ขอให้พวกเราทุกคน “ช่วยกันคิด มองต่างมุม และเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น” เพื่อให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือ “ขอให้เราทุกคน สื่อสารกันอย่างสร้างสรรค์ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน” เพราะกำลังใจคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนงาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีภารกิจสำคัญของนักเรียน เช่น การสอบ PISA หรือ O-NET เราทุกคนมีบทบาทในการเป็น “ทีมสนับสนุน” เพื่อให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพของตนเองออกมาอย่างเต็มที่ เป็นผู้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” “การศึกษาไม่ใช่เพียงภารกิจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือความรับผิดชอบร่วมกันของพวกเราทุกคน” จึงขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนภารกิจด้วยความร่วมมือ ความเข้าใจ และความมุ่งมั่นต่อไป”
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
อินทิรา บัวลอย / ภาพ
ศุภณัฐ วัฒนมงคลลาภ / วีดิทัศน์
The post “เพิ่มพูน” เร่งเครื่องยกระดับการศึกษาไทย สู่มาตรฐานสากล หนุนโรงเรียนพี่เลี้ยงคู่พัฒนา เพื่อเด็กไทย “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ครบทุกมิติ appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.